แม้ว่าวิกฤตการณ์การขาดแคลนชิปและเซมิคอนดักเตอร์จะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ในหลายประเทศทั่วโลกต่างก็ยังคงมุ่งหน้าลงทุนแข่งขันกันสร้างฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศของตัวเองกันอย่างต่อเนื่องไม่มีหยุด
เป็นเพราะว่าเซมิคอนดักเตอร์นั้นถือเป็นชิ้นส่วนที่สำคัญสำหรับการผลิตและพัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์หรือชิ้นส่วนยานยนต์ การสร้างฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์จึงกลายเป็นเรื่องที่หลายประเทศหันมาให้ความสนใจและลงทุนเพิ่มมากขึ้น ในวันนี้ Modern Manufacturing จึงจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ 5 อันดับประเทศที่มีฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์มากที่สุดในโลก
โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ World Population Review ได้รวบรวมข้อมูล 5 อันดับประเทศที่มีการผลิตเซมิคอนดักเตอร์มากที่สุดในปี 2023 เอาไว้ดังนี้
อันดับ 5 จีน
จีนในฐานะของโรงงานแห่งโลกถือเป็นประเทศที่มีตลาดความต้องการของเซมิคอนดักเตอร์สูงที่สุด โดยทางจีนเองนั้นมีกำลังการผลิตเซมิคอนดักเตอร์อยู่ที่ 9% จากการผลิตทั่วโลก แต่ด้วยผลลัพธ์จากความตึงเครียดที่เกิดจากสหรัฐอเมริกาและจีนนั้นทำให้รัฐบาลและภาคเอกชนของจีนเริ่มมีการมุ่งผลักดันนโยบายเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศมากขึ้นแทนการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ การคาดการณ์ในปัจจุบันจึงเชื่อว่าอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตชิปและเซมิคอนดักเตอร์ของจีนนั้นจะมีกำลังการผลิตเพิ่มสูงขึ้นเป็น 25% จากการผลิตทั่วโลกได้ภายในปี 2030
อันดับ 4 สหรัฐอเมริกา
สหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศที่มีกำลังการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ 12% จากการผลิตทั่วโลก ซึ่งหากเทียบจากปี 1990 ที่สหรัฐมีกำลังการผลิตที่ 37% แล้ว ถือว่ามีการผลิตที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่น่าสนใจคือแม้ว่ากำลังการผลิตจะลดลงในหลายปีที่ผ่านมา แต่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ก็ยังคงสร้างผลกำไรให้แก่สหรัฐอเมริกาได้เป็นอย่างมาก เช่นในปี 2021 ที่ผ่านมานั้น ข้อมูลจาก The Semiconductor Industry Association (SIA) ระบุว่าการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์นั้นได้เพิ่มมูลค่ามากกว่า 62 พันล้านดอลลาร์ให้กับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
นอกจากนี้บริษัทในสหรัฐอเมริกายังถือหุ้นประมาณร้อยละ 46.3% ของส่วนแบ่งในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกอีกด้วย นั่นเพราะบริษัทจากอเมริกานั้นมีการดำเนินโรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์กระจายไปยังหลายประเทศทั่วโลกนั่นเอง และนอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐก็ยังคอยมุ่งหน้าผลักดันความสามารถในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศมากขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
อันดับ 3 ญี่ปุ่น
หนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรมการผลิตสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ญี่ปุ่นนั้นถือเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ด้วยจำนวนโรงงานที่มากกว่า 100 แห่งภายในประเทศที่มาจากการลงทุนจากประเทศอื่น ๆ รอบโลกอย่างไต้หวันหรืออเมริกา รวมไปถึงบริษัทผู้ผลิตภายในญี่ปุ่นเอง
อันดับ 2 เกาหลีใต้
ประเทศเกาหลีใต้ที่มีหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอิเล็กทรอนิกส์อย่าง Samsung อยู่นั้นย่อมมีกำลังการผลิตเซมิคอนดักเตอร์อยู่ในอันดับต้น ๆ โดยคิดเป็น 17% ของกำลังการผลิตทั่วโลก อีกทั้งการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ของเกาหลีใต้ยังคิดเป็นอัตราส่วนกว่า 15% ของสินค้าส่งออกที่ช่วยสร้างมูลค่าให้เกาหลีใต้ในปี 2021 โดยนอกจากการเพิ่มกำลังการผลิตแล้วทางรัฐบาลเกาหลีใต้และ Samsung ยังมุ่งหน้าพัฒนาประสิทธิภาพของเทคโนโลยีชิปเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศของตัวเองให้มีความก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน อย่างเช่นการวิจัยและพัฒนาชิป 3 นาโนเมตรที่จะถูกนำไปใช้ในแบรนด์สมาร์ตโฟนอย่าง Apple, Samsung และ Huawei ในอนาคตได้
อันดับ 1 ไต้หวัน
สำหรับประเทศอันดับ 1 ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้นำของโลกในด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ก็คือไต้หวันนั่นเองโดยกำลังหลักของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในไต้หวันนั้นก็มาจากบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. หรือ TSMC ที่เป็นผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์กว่า 50% ของโลกเรา โดย TSMC นั้นยังเป็นผู้ผลิตชิปและเซมิคอนดักเตอร์ให้แก่บริษัทรายใหญ่อื่น ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Apple, AMD, Nvidia, Qualcomm ต่างจากบริษัทผู้ผลิตรายอื่นอย่าง Samsung หรือ Intel ที่ผลิตเซมิคอนดักเตอร์เพื่อการใช้งานในผลิตภัณฑ์ของตัวเองเท่านั้น
ในอนาคตหลายประเทศทั่วโลกก็ยังคงมีแผนการเดินหน้าลงทุนขยายฐานการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ภายในประเทศของตัวเองกันอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นหากประเทศไทยของเราต้องการจะเข้าไปส่วนร่วมอยู่ในอุตสาหกรรมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ได้ เราก็คงจะต้องเห็นการร่วมมือกันจากทั้งรัฐบาลและภาคเอกชนเพื่อดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาและร่วมกันผลักดันเพื่อให้ประเทศไทยสามารถเติบโตไปได้อย่างก้าวกระโดดในอุตสาหกรรมนี้ครับ