เจาะเทรนด์ AS/RS ปี 2023 เลือกใช้คลังสินค้าอัตโนมัติอย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

Date Post
17.07.2023
Post Views

ธุรกิจปัจจุบันต้องรองรับกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของซัพพลายเชนตลอดจนทิศทางตลาดที่แปรผันได้ตลอดเวลา ระบบการจัดเก็บสินค้าที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น สามารถวางแผนเพื่อปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีกลุ่ม AS/RS หรือคลังสินค้าอัตโนมัติจึงกลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญสำหรับทั้งธุรกิจคลังสินค้า การผลิต ตลอดจนธุรกิจ E-Commerce ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน

Automatic Storage and Retrieval System เทคโนโลยีงานคลังยุคใหม่ใช้ได้ในทุกพื้นที่ธุรกิจ

ต้องยอมรับว่าไม่ว่าที่ใดก็ต้องมีพื้นที่สำหรับจับเก็บอุปกรณ์ เครื่องมือ ข้าวของเครื่องใช้ ไม่ว่าจะที่พักอาศัย บริษัท องค์กร ธุรกิจการผลิต ไปจนถึงการเกษตร ความแตกต่างของการใช้งานพื้นที่จัดเก็บเหล่านี้อยู่ที่ขนาดของสิ่งที่จะจัดเก็บ อัตราการจัดเก็บและนำออก ตลอดจนสภาพแวดล้อมของพื้นที่จัดเก็บ

สำหรับภาคการผลิตเองการเบิกจ่ายชิ้นส่วนต่าง ๆ เกิดขึ้นแทบจะตลอดเวลา ในบางครั้งการเข้าถึงชิ้นส่วนที่ต้องการอาจใช้เวลามาก หรือเกิดความผิดพลาดในการหยิบชิ้นส่วน เรียกได้ว่าเกิดความสูญเปล่าจำนวนไม่น้อย ในบางธุรกิจอาจต้องใช้รถฟอร์คลิฟท์ในการยกซึ่งต้องสูญเสียพื้นที่ในการจัดเก็บให้กับการใช้งานตัวรถฟอร์คลิฟท์ หรือบางธุรกิจที่ต้องใช้คนจำนวนมากในการขนย้ายรวมถึงทั้งค้นหาและขนย้าย ซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย ด้วยปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นส่งผลให้เทคโนโลยี Automatic Storage and Retrieval System หรือ AS/RS กลายเป็นสิ่งสำคัญในธุรกิจที่หลากหลาย

จุดเด่นของ AS/RS จึงอยู่ที่ความสามารถในการจัดเก็บที่รวดเร็ว ปลอดภัย และประหยัดพื้นที่การใช้งาน สำหรับการผลิตในโลกยุคดิจิทัลนั้นการติดตามข้อมูลย้อนหลัง หรือการตรวจสอบสั่งงานแบบ Real-Time ก็สามารถเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บชิ้นส่วนหรือเครื่องมือขนาดเล็กในการผลิต การจัดเก็บอะไหล่สิ้นเปลืองจำนวนมาก ชิ้นส่วนขนาดใหญ่ หรือการใช้งานที่ต้องการการควบคุมสภาพแวดล้อมก็สามารถบริหารจัดการพลังงานและปัจจัยต่าง ๆ ให้เหมาะสมได้อย่างง่ายดาย

เทรนด์ AS/RS ต้องรู้สำหรับภาคธุรกิจและการผลิต

จากรายงานของ MarketsandMarkets คาดการณ์ว่าตลาดของ AS/RS จะมีมูลค่าสูงถึง 118,000 ล้านดอลลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2027 มีอัตราการเติบโต CAGR อยู่ที่ 7.4% ระหว่างปี 2022 – 2027 โดยมีความต้องการในการใช้พื้นที่จัดเก็บให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดซึ่งเป็นดีมานด์หลักที่เกิดขึ้น และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีการใช้เทคโนโลยีนี้ในสัดส่วนมากที่สุด โดยหนึ่งในตลาดที่มีแนวโน้มในการเติบโตสูง คือ กลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพ เช่น โรงพยาบาลและสถานบำบัดต่าง ๆ 

การเติบโตของเทคโนโลยี AS/RS นั้นในปัจจุบันนอกจากเทคโนโลยีเฉพาะของแต่ละแบรนด์แล้ว การให้ความสำคัญกับระบบบริหารงานคลังและการควบคุมเป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนการแข่งขันของเทคโนโลยีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นระบบการทำงาน ความปลอดภัย ความสามารถในการบริหารจัดการ และสิทธิในการเข้าถึงต่าง ๆ  ตลอดจนการติดตามข้อมูลสินค้าได้แบบ Real-Time เช่น วันหมดอายุ เป็นต้น

ความท้าทายที่สำคัญของเทคโนโลยี AS/RS จากแหล่งข้อมูลพบว่า การขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคนั้นเป็นปัจจัยสำคัญในการเหนี่ยวรั้งการใช้งาน เพราะ AS/RS นั้นเป็นเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อนในระดับหนึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบูรณาการระบบเพื่อให้เกิดความแม่นยำและความเหมาะสมต่อสิ่งที่จะถูกจัดเก็บ ซึ่งการทำงานอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายหรือแบรนด์ถือเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเลือกใช้ AS/RS ที่เหมาะสมกับความต้องการได้มากที่สุดเช่นกัน

เลือกใช้ AS/RS อย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ

เทคโนโลยี AS/RS ในปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ตู้เบิกจ่ายขนาดเล็กไปจนถึง Rack ขนาดใหญ่ที่ปรับแต่งได้หลากหลาย จากข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันคลังสินค้าอัตโนมัติ AS/RS อย่าง Kardex Remstar ได้แบ่ง AS/RS ออกเป็น 3 กลุ่มเทคโนโลยี 8 รูปแบบ ดังนี้

ระบบเชลฟ์และถาด – เป็นการจัดส่งชิ้นส่วนโดยยกมาทั้งเชลฟ์หรือถาด นำส่งยังผู้ปฏิบัติงาน

1. Vertical Carousel Module ขับเคลื่อนด้วยโซ่ มีความเร็วในการนำส่งช้าถึงปานกลาง ทำงานคล้ายชิงช้าสวรรค์ที่วนตามลำดับ ประหยัดพื้นที่
2. Horizontal Carousel Module ตู้เก็บอัตโนมัติแนวราบ ความเร็วในการนำส่งช้าถึงปานกลาง รองรับน้ำหนักได้มาก
3. Vertical Lift Module จัดเก็บสินค้าแนวตั้ง ประหยัดพื้นที่ ทำงานเป็นลิฟท์แยกหน่วย เข้าถึงชิ้นส่วนได้ทันที

การขนส่ง Bin และ Tote – การจัดส่งชิ้นส่วนจะมาในรูปแบบ Bin หรือ Tote แต่ละชุดเป็นอิสระเพื่อนำส่งผู้ปฏิบัติงาน

4. Crane Based Mini-Load เหมาะสำหรับการใช้พื้นที่จัดเก็บที่หนาแน่นสูง มี SKU จำนวนมาก เหมาะสำหรับการขนย้ายชิ้นงานที่ไม่ต้องการการเคลื่อนที่เร็ว
5. Vertical Buffer Module มีความหนาแน่นพื้นที่สูง เหมาะสำหรับการจัดเก็บชิ้นงานขนาดเล็ก  ทำงานได้รวดเร็ว

การขนส่งโดยหุ่นยนต์ – หุ่นยนต์นำส่งผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ปฏิบัติงาน

6. ระบบชัทเทิลหุ่นยนต์ มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง เหมาะสำหรับชิ้นงานขนาดเล็ก สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว
7. ระบบหุ่นยนต์จัดเก็บทรงลูกบาศก์ โซลูชันการจัดเก็บล่าสุด โดย Bin จะถูกวางซ้อนกันเป็นแถว และหุ่นยนต์จะทำหน้าที่โหลด Bin ไปยังตำแหน่งโหลดของผู้ปฏิบัติงาน
8. ระบบหุ่นยนต์เคลื่อนที่บนพื้น หุ่นยนต์ทำหน้าที่ยกเชลฟ์ที่จัดเรียงชิ้นส่วนไปยังตำแหน่งที่ระบุได้ ปริมาณงานที่ทำได้ขึ้นอยู่กับหุ่นยนต์ในระบบ เหมาะสำหรับคลังสินค้าที่มีพื้นที่

it

AS/RS จาก Kardex Remstar โซลูชันสำหรับ Throughput ระดับอุตสาหกรรมและ E-Commerce

เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจระดับอุตสาหกรรมไปจนถึง E-Commerce ที่ต้องการทั้ง Throughput และความหนาแน่นในระดับสูง ตลอดจนคุณสมบัติเฉพาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีเงื่อนไขแตกต่างกัน Kardex Remstar ผู้เชี่ยวชาญด้าน AS/RS จากเยอรมนีจึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีคลังสินค้าอัตโนมัติในกลุ่มของระบบเชลฟ์และถาดกับการขนส่ง Bin และ Tote ที่ตอบสนองต่อกิจกรรมที่เกิดขึ้นจำนวนมากในธุรกิจได้

1. ประหยัดพื้นที่

โซลูชันจัดเก็บสินค้าอัตโนมัติจาก Kardex Remstar สามารถประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บได้ถึง 85% เหมาะสำหรับโรงงานหรือคลังสินค้าที่มีพื้นที่จำกัด หรือต้องการใช้งานในพื้นที่การประกอบชิ้นส่วนก็สามารถเป็นไปได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซลูชันการจัดเก็บสินค้าแนวตั้งอย่าง VBM, VCM และ VLM

2. มี Throughput ในการทำงานสูง

สำหรับธุรกิจที่มีการเบิกชิ้นส่วนหรือต้องโหลดเข้า-ออกบ่อย Kardex Remstar ได้ออกแบบ AS/RS ให้หลากหลายครอบคลุมความต้องการใช้งานสำหรับเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป แต่ยังคงให้ความสำคัญกับ Throughput ระดับสูงที่สามารถติดตามวัดผลได้ชัดเจน สามารถเข้าถึงตัวชิ้นงานได้ในเวลาต่ำกว่า 1 นาที ยกตัวอย่างเช่น Kardex Compact Buffer ที่เพิ่ม Throughput ได้มากถึง 200% เมื่อเปรียบเทียบกับคลังสินค้าเดิม

3. อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย

นอกเหนือไปจากการทำงานบนพื้นฐานของระบบอัตโนมัติแล้ว AS/RS จาก Kardex Remstar ยังตอบสนองต่อความท้าทายในการแข่งขันของธุรกิจยุค 4.0 ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่ง่ายดาย รวดเร็ว การเชื่อมต่อข้อมูลผ่านเครือข่าย เทคโนโลยีป้องกันความผิดพลาดในการหยิบหรือโหลดชิ้นงาน โซลูชันในการควบคุมสภาพแวดล้อมภายในเครื่องเพื่อดูแลชิ้นงานที่มีความอ่อนไหว

4. สร้างความคุ้มค่าได้อย่างชัดเจน

ด้วยคุณสมบัติที่สามารถประเมินการทำงานได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถบริหารจัดการการทำงาน เพิ่มผลิตภาพให้กับกระบวนการที่เกี่ยวข้องสูงสุดถึง 400% ทั้งยังลดจำนวนแรงงานที่ต้องใช้และลดความผิดพลาดในงานคลงสินค้าได้มากถึง 99% อีกด้วย การทำงานที่เกิดขึ้นจึงรวดเร็วและแม่นยำ มีความปลอดภัยในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังใช้พื้นที่น้อยลงในขณะที่ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

5. Store Master ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการพร้อมความเชี่ยวชาญระดับแนวหน้าของภูมิภาค

Store Master ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้นมีการรับรองให้เป็น Asia Pacific Kardex Remstar Professional Technician ภายในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถปรับแต่ง ติดตั้ง ซ่อมแซม และเคลื่อนย้ายเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการทำงานควบคู่กันกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดตั้งแต่การให้คำปรึกษาก่อนลงทุนไปจนถึงการเตรียมพื้นที่และการติดตั้งประกอบในโรงงาน ซึ่งเป็นการนำเข้าชิ้นส่วนทั้งหมดจากเยอรมนี

ความต้องการใช้งานระบบคลังสินค้าอัตโนมัติหรือ AS/RS นั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีนี้กลับมีอยู่อย่างจำกัด ด้วยเงื่อนไขด้านความซับซ้อนและการต้องปรับตัวตามความต้องการที่แตกต่างกันไปตามสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ต้องเก็บรักษา Store Master ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลโซลูชัน AS/RS แบรนด์ Kardex Remstar จากเยอรมนีที่สามารถตอบสนองต่อเงื่อนไขความต้องการในธุรกิจอุตสาหกรรมและงานคลังสินค้าที่สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจน

สนใจโซลูชันจัดเก็บสินค้าแนวตั้ง Kardex Shuttle XP ติดต่อ:

Store Master Co., Ltd.

โทรศัพท์: 02-988-5460, 081-890-1597
Email: [email protected]
Website: www.storemaster.co.th, www.kardex.com
Social: Storemaster Thailand

Logo-Company
logo-company
Thossathip Soonsarthorn
"Judge a man by his questions rather than his answers" Voltaire