ความร้อนเป็นส่วนสำคัญในการแปรรูปอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อม การหลอมโลหะ ไปจนถึงการฆ่าเชื้อต่าง ๆ ซึ่งในอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร เครื่องดื่ม ไปจนถึงการผลิตยานั้นจำเป็นต้องมีการควบคุมความร้อนที่ต่อเนื่องภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ ที่ชัดเจนเพื่อความปลอดภัย การเลือกใช้เครื่องพ่นไฟที่เหมาะสมในงานเหล่านี้จึงเป็นตัวกำหนดคุณภาพและความคุ้มค่าของการใช้งานเครื่องพ่นไฟได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มนั้นการฆ่าเชื้อถือเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญมากที่สุด การปนเปื้อนใด ๆ ที่เกิดขึ้นในกระบวนการหรือหลงเหลือจากวัตถุดิบอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคและในท้ายที่สุดก็จะส่งผลเสียต่อแบรนด์ของผู้ผลิตโดยตรง การเลือกใช้เครื่องพ่นไฟที่เหมาะสมสำหรับเครื่องจักรที่เกี่ยวข้องจึงต้องพิจารณาอย่างใส่ใจ
โรงงานอุตสาหกรรมส่วนหนึ่งนั้นได้มีการออกแบบขั้นตอนการฆ่าเชื้อหรือการใช้เครื่องสร้างไอน้ำ (Boiler) ด้วยบุคลากรภายในเอง บางส่วนก็ใช้การจัดซื้อจัดจ้างทั้งโซลูชันที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการไม่น้อยที่เลือกใช้เครื่องจักรที่มีการติดตั้งเครื่องพ่นไฟสำเร็จรูปมาใช้งาน แต่ในการเลือกใช้งานเครื่องพ่นไฟนั้นผู้ใช้งานจำเป็นต้องรู้อะไรบ้างเพื่อที่จะช่วยให้การเลือกใช้เครื่องพ่นไฟด้วยตัวเองหรือแม้แต่การนำเสนอความต้องการที่ถูกต้องให้กับตัวแทนจำหน่ายที่ใช้บริการ
5 สิ่งที่ต้องรู้สำหรับการเลือกใช้เครื่องพ่นไฟในอุตสาหกรรม
เครื่องพ่นไฟนั้นถือเป็นอุปกรณ์ที่มีการใช้พลังงานจำนวนมหาศาล ทั้งยังเป็นอุปกรณ์ที่มีความอันตรายในการใช้งานอีกด้วย ดังนั้นก่อนการเลือกใช้งานเครื่องพ่นไฟผู้ประกอบการหรือผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบจำเป็นต้องพิจารณาด้านใดที่เกี่ยวข้องบ้าง
1. กำลังของเครื่องพ่นไฟ
ในการเลือกใช้เครื่องพ่นไฟนั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือ กำลังไฟฟ้าและขนาดกำลังความร้อน การเลือกกำลังความร้อนที่มากเกินไปอาจทำให้อุปกรณ์ที่ทำงานด้วยนั้นเกิดความเสียหายได้ในระยะยาวทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่เกินความจำเป็น แต่ในทางกลับกันการใช้กำลังความร้อนที่น้อยเกินไปกระบวนการที่ใช้อาจไม่ได้มาตรฐานตามที่กำหนด รวมถึงต้องใช้เวลาและเชื้อเพลิงมากกว่าที่จำเป็นต้องใช้ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงรูปแบบการใช้งานว่าเป็นการทำงานต่อเนื่องที่ปรับระดับความร้อนได้หรือไม่ หรือเป็นเพียงการให้ความร้อนเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะต้องการความทนทานสำหรับการทำงานที่ต่อเนื่องแตกต่างกัน
2. มุมองศาของเปลวเพลิงกับพื้นที่รองรับการเผาไหม้
พื้นที่ที่ต้องรองรับการเผาไหม้ของเปลวเพลิง (Chamber) แต่ละรูปแบบนั้นต้องการมุมองศาและลักษณะเปลวเพลิงที่แตกต่างกันไป ระยะของเปลวเพลิงที่ออกมาจากเครื่องพ่นไฟนั้นจะต้องสอดคล้องกับพื้นที่ Chamber ที่รองรับการเผาไฟ เช่น ระยะเปลวเพลิงที่ยาวเกินไปอาจสัมผัสโดยตรงกับท่อทำให้ท่อเกิดการฉีกขาด นอกจากนี้การเลือกใช้เชื้อเพลิงก็ส่งผลต่อแรงดันและเปลวเพลิงเช่นกัน
3. เลือกใช้เชื้อเพลิงให้เหมาะสม
เชื้อเพลิงแต่ละชนิดนั้นมีจุดเด่นและข้อควรระวังในการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยเชื้อเพลิงที่พบได้บ่อยในการใช้งานสำหรับเครื่องพ่นไฟ ได้แก่
- เชื้อเพลิงน้ำมัน ในประเทศไทยนั้นเชื้อเพลิงยอดฮิตสำหรับเครื่งพ่นไฟ คือ น้ำมันดีเซลกับน้ำมันเตา โดยมากมักใช้ในโรงงานที่ไม่ได้อยู่ใกล้แหล่งจ่ายก๊าซ มีราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่ในการเผาไหม้อาจต้องใช้ปริมาณเชื้อเพลิงค่อนข้างมากเพื่อให้ได้ความร้อนที่ต้องการ นอกจากนี้ในการเผาไหม้ยังมีการปลดปล่อยมลภาวะสูงกว่าเชื้อเพลิงรูปแบบอื่นอีกด้วย
- แก๊สธรรมชาติ แก๊สธรรมชาตินั้นถือว่าเป็นอีกหนึ่งเชื้อเพลิงที่นิยมใช้งานกันในเครื่องสร้างไอน้ำ ด้วยราคาที่ย่อมเยาว์ สะดวกยิ่งขึ้นเมื่ออยู่ใกล้แหล่งจ่ายแก๊ส ทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าน้ำมันอีกด้วย แต่ในการใช้งานแก๊สนั้นถือว่ามีอันตรายกว่าเชื้อเพลิงชนิดอื่นที่สามารถรั่วไหลได้ง่ายกว่านั่นเอง
- โพรเพนเหลว แม้ว่าจะมีราคาที่แพงกว่าแก๊สธรรมชาติแต่ทว่ามีการใช้งานอย่างกว้างขวางแต่ก็ยังเป็นทางเลือกที่มาราคาไม่สูงนัก อันที่จริงแล้วโพรเพนถือเป็นแก๊สชนิดหนึ่งที่มีการสร้างมลภาวะในระดับต่ำกว่าแก๊สทั่วไปผู้ประกอบการจึงนิยมใช้ด้วยเหตุผลที่ว่ามีการปลดปล่อยมลภาวะในระดับต่ำกว่า
- ระบบไฟฟ้า การใช้ไฟฟ้าในการทำความร้อนนั้นเป็นวิธีที่มีต้นทุนสูงกว่าแบบแก๊สทั้งหมด แต่ในด้านความสะอาดและการใช้งานนั้นถือไ้ด้ว่าเป็นรูปแบบที่ปลอดภัย มีเสียงรบกวนต่ำ และเรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพสูงเมื่อเทียบกับการใช้งานรูปแบบอื่น ๆ
4. เลือกรูปแบบการติดตั้งให้เหมาะสม
ในการติดตั้งเครื่องพ่นไฟสำหรับงานอุตสาหกรรมนั้น โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งการติดตั้งเป็น 2 แบบ ได้แก่
- การติดตั้งบนผนัง สะดวกต่อการบำรุงรักษาแต่ในการควบคุมปัจจัยอื่น ๆ นั้นอาจจะทำได้ยาก
- การติดตั้งในปล่อง/ท่อ สามารถควบคุมการทำงานและปัจจัยแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับการซ่อมบำรุงนั้นจะมีความยากลำบากในการเข้าถึง
5. ความคุ้มค่าและความยั่งยืนในการใช้งาน
การใช้งานเครื่องพ่นไฟนั้นมาพร้อมกับค่าใช้จ่ายจำนวนมากสำหรับเชื้อเพลิง การบริหารจัดการมลภาวะที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการบริหารจัดการความปลอดภัยในการใช้งาน การเลือกใช้เครื่องพ่นไฟที่มีประสิทธิภาพจึงต้องคำนึงถึงความเหมาะสมในเงื่อนไขที่ใช้งาน ตลอดจนความสามารถในการใช้งานที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหากับสภาพแวดล้อมซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนของ UN SDG ซึ่งการเลือกใช้เครื่องพ่นไฟที่แบรนด์นั้นให้ความสำคัญกับแนวคิดดังกล่าวก็สามารถสนับสนุนให้เกิดความคุ้มค่าเหล่านี้ได้เช่นกัน
ปัจจุบันในตลาดนั้นมีแบรนด์เครื่องพ่นไฟสำหรับงานอุตสาหกรรมอยู่มากมาย แต่แบรนด์ที่มาจากประเทศอิตาลีนั้นมักจะได้รับความสนใจและการยอมรับเป็นพิเศษจากผู้ผลิตชั้นนำอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะแบรนด์ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานเช่น Riello ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านเครื่องพ่นไฟสำหรับอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 100 ปี ซึ่งผู้ผลิตทั่วโลกให้การยอมรับในประสิทธิภาพและความคุ้มค่า
Riello เครื่องพ่นไฟที่ใส่ใจในนวัตกรรมยั่งยืน
ตำนานของ Riello นั้นเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1922 และได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน และในฐานะผู้ผลิตเครื่องพ่นไฟระดับสากล Riello ได้ให้ความสำคัญกับแนวคิดสีเขียวหรือเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับโลก โดยจัดตั้งศูนย์วิจัย Combustion Research Center เพื่อวิจัยและทดสอบความสามารถในการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียน จึงมั่นใจได้ว่าเครื่องพ่นไฟจาก Riello นั้นสามารถส่งมอบคุณค่าในการใช้งานและการเติบโตอย่างยั่งยืนสำหรับผู้ประกอบการได้อย่างแน่นอน
เครื่องพ่นไฟแบรนด์ Riello นั้นมาพร้อมกับตัวเลือกเชื้อเพลิงให้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งระบบ 1 จังหวะ, 2 จังหวะ, 3 จังหวะ และการเผาแบบต่อเนื่อง โดยแบ่งตามประเภทเชื้อเพลิง ได้แก่
เครื่องพ่นไฟระบบน้ำมันดีเซล
Riello นั้นมีเครื่องพ่นไฟระบบน้ำมันดีเซลให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องพ่นไฟ 4 จังหวะ, เครื่องพ่นไฟ 2 จังหวะ ,เครื่องพ่นไฟ 3 จังหวะ และเครื่องพ่นไฟแบบเผาต่อเนื่อง
เครื่องพ่นไฟระบบน้ำมันดีเซลที่น่าสนใจ คือ รุ่น PRESS P/G ควบคุมการเผาอย่างต่อเนื่อง มีขนาดกำลังความร้อน 1660 – 5340 kW มาพร้อมมาตรฐาน IP40
เครื่องพ่นไฟระบบน้ำมันเตา
เครื่องพ่นไฟระบบน้ำมันเตาจาก Riello มีให้เลือกใช้งาน 4 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ เครื่องพ่นไฟ 1 จังหวะ, เครื่องพ่นไฟ 2 จังหวะ ,เครื่องพ่นไฟ 3 จังหวะ และเครื่องพ่นไฟแบบเผาต่อเนื่อง
เครื่องพ่นไฟระบบน้ำมันเตาที่น่าสนใจ คือ รุ่น PRESS T/N ควบคุมการเผาแบบ 3 จังหวะ ขนาดกำลังความร้อนอยู่ที่ 1600 – 5130 kW ความหนืดของน้ำมันเตา ที่ 50 °C : 50 cSt มาพร้อมมาตรฐาน IP40
เครื่องพ่นไฟระบบแก๊ส
เครื่องพ่นไฟระบบแก๊สจาก Riello มีให้เลือกใช้งาน 3 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องพ่นไฟ 1 จังหวะ, เครื่องพ่นไฟ 2 จังหวะ และเครื่องพ่นไฟแบบเผาต่อเนื่อง
เครื่องพ่นไฟระบบแก๊สที่น่าสนใจ คือ รุ่น 40 FS ควบคุมการเผาแบบ 1 จังหวะ ขนาดกำลังความร้อนอยู่ที่ 35 – 220 kW มาพร้อมมาตรฐาน IP40
เครื่องพ่นไฟระบบมลพิษต่ำ
เครื่องพ่นไฟระบบมลพิษต่ำ (Low NOx) มีให้เลือกใช้งานรูปแบบเดียว คือ ระบบแก๊สแบบเผาต่อเนื่อง
เครื่องพ่นไฟระบบมลพิษต่ำที่น่าสนใจ คือ รุ่น RS 310-610/M BLU Series ควบคุมการเผาแบบต่อเนื่อง ขนาดกำลังความร้อนอยู่ที่ 3630 – 6250 kW ใช้ปริมาณแก๊ส NG 363 – 625 m3/h ใช้ปริมาณแก๊ส LPG 284.2 – 489.34 kg/h มาพร้อมกับมาตรฐาน IP54
เครื่องพ่นไฟระบบ 2 เชื้อเพลิง
เครื่องพ่นไฟระบบ 2 เชื้อเพลงมีรูปแบบการทำงานให้เลือกใช้ 2 รูปแบบ ได้แก่ เครื่องพ่นไฟ 2 จังหวะ และเครื่องพ่นไฟแบบเผาต่อเนื่อง
เครื่องพ่นไฟระบบ 2 เชื้อเพลิงที่น่าสนใจ คือ รุ่น RLS ควบคุมการเผาแบบ 2 จังหวะ ขนาดกำลังความร้อนอยู่ที่ 163 – 1395 kW มาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการทำงานแสดงข้อมูลอย่างหลากหลายทำให้วิเคราะห์ใช้งานได้อย่างง่ายดาย
เครื่องพ่นไฟแบรนด์ Riello นั้นได้รับการผลิตจากประเทศอิตาลีทั้งหมด โดยทำการผลิตภายใต้การควบคุมมาตรฐาน European Standard ผู้ประกอบการจึงมั่นใจได้ในคุณภาพและความปลอดภัยสำหรับการใช้งาน รวมถึงคุณสมบัติที่สอดคล้องกับแนวคิดด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อมและนโยบายความยั่งยืนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินการเติบโตของของธุรกิจยุคปัจจุบัน
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเครื่องพ่นไฟ Riello มาตรฐานยุโรปสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการได้ที่วานิชกรุ๊ป ตัวแทนจำหน่ายที่มีความเชี่ยวชาญในด้านสินค้าอุตสาหกรรมมายาวนานกว่า 30 ปี พร้อมบริการผู็ประกอบการด้วยสินค้าคุณภาพสูงภายใต้ราคาที่เหมาะสม ที่สำคัญยังมั่นใจในสินค้าทุกชิ้นได้ด้วยนโยบาย ‘ตรวจสิบสินค้าทุกชิ้น’ จึงมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ สามารถใช้งานได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้วานิชกรุ๊ปยังมีคลังสินค้าพร้อมส่งขนาดใหญ่ทำให้การสั่งซื้อและส่งมอบสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการใช้งานที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งใหม่ การขยายสายการผลิต ไปจนถึงงานซ่อมบำรุงที่ไม่ปล่อยให้เกิด Downtime อันยาวนาน
สามารถปรึกษาหรือติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องพ่นไฟสำหรับโรงงานอาหาร เตาอบ หรือการใช้งานกับเครื่องผลิตไอน้ำ (Boiler) รวมถึงระบบส่งกำลังในอุตสาหกรรมที่รับประกันคุณภาพและประสิทธิภาพจากแบรนด์ยุโรปชั้นนำที่มาพร้อมกับทีมบริการที่มากประสบการณ์ได้ที่วานิชกรุ๊ป
สนใจสินค้าด้านระบบส่งกำลังจากวานิชกรุ๊ปโปรดติดต่อ:
Vanich Group (วานิชกรุ๊ป)
โทรศัพท์: 02-898-3000
Email: [email protected]
Website: www.vanichgroup.com
Facebook: Vanich Group – ผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าอุตสาหกรรม
เนื้อหาที่น่าสนใจ: คุณสมบัติสำคัญของ ‘มอเตอร์เกียร์’ ในอุตสาหกรรมอาหาร |