Wypall ผ้าเช็ดทำความสะอาดสำหรับสารปนเปื้อนในอุตสาหกรรม

Wypall ผ้าเช็ดทำความสะอาดสำหรับสารปนเปื้อนในอุตสาหกรรม

10.07.2024

หากคุณผู้อ่านเคยมีประสบการณ์ในการทำอาหารกินเองที่บ้าน และต้องเช็ดทำความสะอาดเตาแก๊สคงพอทราบว่า การใช้ผ้าขี้ริ้วเช็ดน้ำมัน การซักทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และบ่อยครั้งผ้าเช็ดนั้นยังเก็บสิ่งสกปรกไว้ เมื่อนำมาเช็ดซ้ำกลายเป็นสกปรกกว่าเดิม ซึ่งวิธีที่ง่ายกว่าและรวดเร็ว คือ การใช้ทิชชู่หรือกระดาษชำระแผ่นใหญ่ที่ดูดซับได้ดี เช็ดน้ำมันจนเต็มที่แล้วทิ้งไป 

จากที่กล่าวมาข้างต้น ประเด็นที่ต้องการจะสื่อ คือ ปัญหาของการปนเปื้อนข้าม (Cross Contamination) จากการใช้ผ้าขี้ริ้วซ้ำ ๆ มีความคล้ายกันกับในโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เศษผ้ามาเช็ดซ้ำ ๆ เพียงแต่ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นการปนเปื้อนข้ามจะเป็นสารที่มีความรุนแรงและอันตรายกว่า ซึ่งในแง่ของสุขอนามัยของคนงาน เป็นสิ่งที่เจ้าของโรงงานควรให้ความสนใจ 

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เศษผ้าอเนกประสงค์

  • สุขอนามัยของคนงาน – การปนเปื้อนข้าม (Cross Contamination) จากการใช้ผ้าเช็ดในหลาย ๆ จุด เป็นการทำความสะอาดที่ไม่มีประสิทธิผล ยิ่งเช็ดยิ่งเป็นการกระจายสิ่งสกปรกออกไปตามจุดต่าง ๆ สารตกค้างที่ระเหยแล้วคนงานสูดดมเข้าไปเป็นผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
  • เศษผ้าอาจทิ้งขุยปนเปื้อนในกระบวนการผลิต ส่งผลต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์
  • การใช้เศษผ้าที่ดูดซับไม่ดี ทำให้ต้องใช้เศษผ้าในปริมาณมากในการทำความสะอาด และทำให้พนักงานที่ปฏิบัติการกับเครื่องจักรต้องเสียเวลาในการทำความสะอาดนานขึ้น แทนที่จะโฟกัสไปที่การผลิตชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หากเศษผ้ามีการทำความสะอาดและนำมาใช้ซ้ำ ทำให้เกิดต้นทุนแฝง ไม่ว่าจะเป็นการซักล้าง การกระจายเศษผ้าไปตามจุดต่าง ๆ ตลอดจนการเก็บเศษผ้าที่ใช้แล้ว ซึ่งเป็นต้นทุนทั้งเวลาและแรงงาน
mmthailand Sustainability

การใช้ผ้าเช็ดอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาให้ดูดซับได้ดี ทำให้สามารถประหยัดเวลาในการทำความสะอาดได้ และลดปัญหาการปนเปื้อนข้ามกัน 

วิดีโอเปรียบเทียบวงจรชีวิตของเศษผ้าอเนกประสงค์กับ Wypall ผ้าเช็ดอุตสาหกรรมจาก Kimberly-Clark Professional

ผลิตภัณฑ์ Wypall’ จาก Kimberly-Clark Professional สามารถเช็ดทำความสะอาดสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรมได้เป็นพิเศษ แก้ไขปัญหาความไม่มีประสิทธิภาพและขยะจากเศษผ้าอเนกประสงค์ ผ้าเช็ดที่ออกแบบมาเป็นพิเศษนั้นมั่นใจได้ถึงการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพ ลดการใช้เศษผ้าลงได้มาก และลดของเสียให้เหลือน้อยที่สุด นอกจากนีั ยังมีตัวเลือกรูปแบบการจัดเก็บและแจกจ่ายที่ยืดหยุ่น มีทั้งแบบม้วน แบบกล่อง และแบบหยิบเป็นแผ่น ๆ สิ่งที่แตกต่างกันกับเศษผ้าอเนกประสงค์ คือ โครงสร้างของผ้าเช็ดอุตสาหกรรมได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษให้สามารถดูดซับได้อย่างดีเยี่ยม และมีความคงทนต่อการใช้งาน เช็ดคราบที่มีความสกปรกมากสำหรับพื้นผิวอุตสาหกรรม ทั้งยังทนทานต่อสารทำละลาย (Solvent) สารทำความสะอาดที่มีความรุนแรง 

Powerclean X70s are extremely hard-wearing, so they do not tear when removing paste-like deposits, but effectively bind the dirt and oil particles.

Wypall X70s มีความทนทานมากเป็นพิเศษ ไม่ฉีกขาดเมื่อเช็ดคราบสกปรกที่มีความเหนียว แต่จะจับสิ่งสกปรกและอนุภาคน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(ที่มา: Eli Meir Kaplan/ Kimberly-Clark Professional)

Wypall ผ้าเช็ดอุตสาหกรรมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีให้เลือกหลากหลายประเภทและระดับความสกปรกที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังไม่ทำให้พื้นผิวเสียหายอีกด้วย ได้แก่

Wypall L40 

  • เหมาะสำหรับระดับความสกปรกเล็กน้อยบนพื้นผิวอุตสาหกรรม
  • เนื้อนุ่ม ดูดซับได้เร็วกว่าเศษผ้าอเนกประสงค์
  • มีความอ่อนโยนต่อมือและพื้นผิว

Wypall Right Purpose X70 Wipe

  • ด้วยเทคโนโลยี Hydroknit (วัสดุซึมซับเร็ว) จึงให้ความแข็งแรงและทนทาน
  • มีความทนทานต่อสารทำละลาย (Solvent) และน้ำยาทำความสะอาด
  • มีความทนทานเป็นพิเศษ ไม่ฉีกขาดเมื่อเช็ดคราบสกปรกที่เป็นคราบเหนียว
  • สามารถจับสิ่งสกปรกและอนุภาคน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • เมื่อเช็ดทำความสะอาด น้ำมันจะไม่ทะลุมาโดนผิวหนัง และไม่กระจายออกไปบนพื้นผิว

Wypall Right Purpose X80 Wipe

  • สำหรับงานหนัก (Heavy Duty) ที่มีเศษโลหะและน้ำมันในปริมาณมาก
  • มีความทนทานสูง คงทนต่อการฉีกขาดแม้จะมีความสกปรกมาก 
  • สามารถจับแม้เศษโลหะออกไปได้ทั้งหมดโดยไม่ทำลายพื้นผิวจากการเช็ด

https://www.youtube.com/watch?v=HBDG0XKvhg0

Wypall ทั้ง 3 รุ่นที่กล่าวไปข้างต้นสามารถลดปริมาณขยะลงได้ถึง 78% เมื่อเทียบกับเศษผ้า นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการจัดเก็บและการใช้งานหลากหลายแบบ เช่น แบบม้วน แบบพับ ¼ และแบบ Pop Up Box เป็นต้น

บทความอ้างอิง: https://www.etmm-online.com/

Kasiwoot T.
อดีตวิศวกรโรงงาน (Industrial Engineer) บริษัทผลิตฮาร์ดดิสก์ ที่ผันตัวมาทำงานด้านการขายและการตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคและส่งออก มีประสบการณ์อยู่ในช่วงการเปลี่ยนถ่ายของโรงงานชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์จากการใช้แรงงานคนแบบดั้งเดิม (Labor Intensive) เป็นการผลิตระบบอัตโนมัติด้วยเครื่องจักรทั้งหมด 24 ชม. (Full automation)