ก.อุตฯ เร่งช่วยเหลือผู้ส่งออกเครื่องปรับอากาศของไทย เหตุอินเดียห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่มีสารทำความเย็น สั่ง สมอ. เตรียมขึ้นถกในเวทีโลก WTO เดือนมีนาคมนี้ พร้อมเรียกร้องให้ขยายเวลาบังคับใช้กฎระเบียบเคมีภัณฑ์
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายส่งเสริมการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยอำนวยความสะดวกด้านมาตรการทางกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ล่าสุดประเทศอินเดียกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่บรรจุสารทำความเย็น ออกกฎระเบียบการนำเข้าเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี และระงับการตรวจประเมินโรงงานผลิตสินค้าในต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ รวมทั้งเคมีภัณฑ์ของไทย
เพิ่มปริมาณจัดเก็บในคลังสินค้า ด้วยระบบ Shuttle Racking Systems | LPI Rack Range [Super Source]
ตนจึงได้สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ในฐานะผู้แทนประเทศไทยในคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Committee on Technical Barriers to Trade : TBT) ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) หยิบยกประเด็นดังกล่าวเข้าในการประชุม Committee on TBT เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยต่อไป
ด้านนายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาว่า จากกรณีดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกเครื่องปรับอากาศของไทยซึ่งต้องแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จากการจ้างโรงงานในประเทศอินเดียบรรจุสารทำความเย็นใเครื่องปรับอากาศ ในขณะที่เครื่องปรับอากาศที่ผลิตในประเทศอินเดียสามารถบรรจุสารทำความเย็นและจำหน่ายได้ทันที อีกทั้งยังออกประกาศใช้กฎระเบียบการนำเข้าเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี โดยให้เวลาในการเตรียมการเพียง 180 วันเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำเนินการ โดยภาคอุตสาหกรรมขอให้ขยายเวลาเป็น 360 วัน
นอกจากนี้ ยังระงับการมาตรวจประเมินโรงงานในประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การส่งออกเครื่องปรับอากาศและเคมีภัณฑ์ต้องหยุดชะงัก มติการประชุมในครั้งนี้ จึงขอให้ สมอ. ในฐานะผู้แทนประเทศไทยใน Committee on TBT หยิบยกประเด็นดังกล่าวในการประชุม Committee on TBT ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 มีนาคม 2565 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ตามพันธกรณีความตกลงที่ประเทศสมาชิกต้องถือปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน
- ก.อุตฯ เตรียมยกระดับ “ใบกระท่อม” แปรรูปเป็นสินค้า มอก.
- ก.อุตฯ จัด สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ช่วยเหลือ SME เปิดรับคำขอ 17 ม.ค. นี้
- ก.อุตฯ ชงแผนพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เข้า กอช.
- ก.อุตฯ มอบของขวัญปีใหม่ จัดมหกรรมสินค้าราคาโรงงาน
ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า สมอ. ในฐานะผู้แทนประเทศไทยในคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า ได้เจรจาทวิภาคีกับอินเดียเพื่อหารือร่วมกันในการลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าแล้ว แต่อินเดียยังไม่ยกเลิกมาตรการดังกล่าว จึงจำเป็นต้องยกระดับการเจรจา โดย สมอ. จะหยิบยกประเด็นมาตรการดังกล่าวนี้ รวมทั้งข้อเสนอของประเทศไทยในการประชุม Committee on TBT ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-11 มีนาคม 2565 ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยจะเรียกร้องให้อินเดียยกเลิกมาตรการห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่บรรจุสารทำความเย็น เนื่องจากขาดเหตุผลทางวิทยาศาสตร์และเป็นการปฏิบัติไม่เท่าเทียมกันระหว่างสินค้าที่ผลิตในประเทศกับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ
รวมทั้งขอให้ขยายเวลาการบังคับใช้กฎระเบียบควบคุมคุณภาพเกี่ยวกับการนำเข้าเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี จาก 180 วัน เป็น 360 วัน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาในการเตรียมความพร้อม
นอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขอให้อินเดียพิจารณาการตรวจประเมินโรงงานผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (remote audit) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า
และนอกจากประเด็นมาตรการของอินเดียแล้ว ยังมีประเด็นเสนอให้อินโดนีเซียพิจารณาการใช้กลไกความตกลง ASEAN Harmonized Electrical and Electronic Equipment Regulatory Regime (AHEEERR) ในการรับรองผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศที่ส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เพื่อไม่ต้องมีการตรวจสอบซ้ำ ซึ่งจะช่วย
ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่าย