“กสอ. จับมือ กทบ.” ลงพื้นที่ชัยนาทคิกออฟโปรเจกต์ปั้นแบรนด์4 ชุมชน ติดอาวุธองค์ความรู้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากการเป็นประธาน เปิดโครงการสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงการทองเที่ยวจังหวัดชัยนาท เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ฐานรากด้วยกลไกและเครื่องมือการพัฒนาของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมสู่ความยั่งยืน ว่า พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานรากที่จาเป็นต้องส่งเสริมให้เกิดความเข้มแข็งอันจะเป็นกาลังสาคัญในการยกระดับคุณภาพสังคม คุณภาพชีวิต และส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้นจึงมีนโยบายให้ทุกหน่วยงานของภาครัฐเร่งหาแนวทางและการบูรณาการร่วมกันเพื่อส่งเสริม และยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งขณะเดียวกัน กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ขานรับนโยบายดังกล่าว จึงเร่งดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนปณิธานของนายกรัฐมนตรีให้เป็นรูปธรรม โดยได้ผนึกความร่วมมือระหว่าง กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) และกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง (กทบ.) เพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการในชุมชนให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากโดยการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน จากการพัฒนาอาชีพให้เกิดขึ้นในท้องถิ่น
นายณัฐพล รังสิตพลอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่ากรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้รับมอบหมายจากท่านสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมให้เร่งดำเนินการหาแนวทาง การส่งเสริมและยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนดังนั้น กรมฯ จึงได้จัดทำโครงการสร้างอัตลักษณ์ผลิตภัณฑ์ชุมชนเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท ประจำปีงบประมาณ 2564 เพื่อนำองค์ความรู้ด้านการประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญการส่งเสริมชุมชนให้มีความพร้อมเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้ระบบเศรษฐกิจฐานรากและประสบการณ์ดำเนินงานจากโครงการพัฒนาหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์หรือ หมู่บ้าน CIV ที่ดำเนินการ กว่า 230 แห่งทั่วประเทศ ตกผลึกเป็นองค์ความรู้พิเศษเพื่อยกระดับศักยภาพให้กับวิสาหกิจชุมชนในพื้นเป้าหมายให้สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองหรือ Identity โดยอาศัยองค์ประกอบจากวัตถุดิบ ในชุมชนนั้น ๆ เชื่อมโยงเรื่องราววิถีชุมชนเพื่อเป็นจุดขาย
เบื้องต้น กสอ. บูรณาการความร่วมมือกับทาง กทบ. โดยเข้าไปถ่ายทอดองค์ความรู้ส่งเสริมทักษะการสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์และการเพิ่มช่องทางและโอกาสทางการตลาดให้กับชุมชนและกลุ่มสมาชิกลูกค้าของทาง กทบ.ภายใต้หลักสูตรการพัฒนาอาชีพของศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 3 ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม4.0 (Industry Transformation Center 4.0 :ITC 4.0) และศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Thailand Industrial Design Center: Thai -IDC) ที่จะเปิดฝึกอบรมในหลักสูตรการพัฒนานักออกแบบชุมชน หลักสูตรการทำผ้ามัดย้อม และหลักสูตรการเขียนเทียน กลุ่มสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองวิสาหกิจชุมชน และกลุ่มหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือ OTOP โดยนำร่องในพื้นที่เป้าหมาย 4 ชุมชน ได้แก่ 1.ชุมชนสรรพยา 2.ชุมชนมโนรมย์3.ชุมชนลาวเวียงบ้านเนินขาม และ 4.ชุมชนสรรค์บุรี เนื่องจากแต่ละชุมชนมีอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนกัน และมีศักยภาพที่พร้อมนำไปพัฒนาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ และทั้ง 4 ชุมชน ยังถือเป็นพื้นที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเข้ามาอยู่แล้ว ดังนั้น การเข้ามาพัฒนาองค์ประกอบของการเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สมบูรณ์จะต้องมีผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่จะเป็นจุดขายเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวให้กลับมาอีกครั้ง และคาดว่า จะมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่า 15,000 คนต่อปี หลังจากที่การท่องเที่ยวเกิดการชะลอตัวในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด 19
นายณัฐพลกล่าวเพิ่มเติมว่า กสอ. พร้อมให้การสนับสนุนอย่างครบวงจรเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นรูปธรรมทั้งในด้านเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการให้บริการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำออกแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ การเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวและพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวในชุมชนโดยภายในงาน กสอ. ได้มีการจัดบูธกิจกรรม THAI IDC MOBILEUNIT บริการออกแบบบรรจุภัณฑ์อัตลักษณ์ชุมชน กิจกรรม Workshop การทำผ้ามัดยอม การทำสีธรรมชาติการเสริมทักษะการเพิ่มมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อนักท่องเที่ยวของชุมชนการทำ DIY ผลิตภัณฑ์ภายในชุมชนหมู่บ้านCIV และยังมีบูธเงินหมุนเวียนของ กสอ. และ กองทุนหมู่บ้านของทาง กทบ.ที่จะให้บริการให้คำปรึกษาด้านการเงิน ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีสมาชิกกองทุนหมู่บ้านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและกลุ่มOTOP ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ประมาณ 600 คน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก นายณัฐพลกล่าวทิ้งท้าย
นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ ผู้อานวยการสานักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า กทบ. และ กสอ. ถือเป็นพันธมิตรที่มีจุดมุ่งหมายร่วมกันในการยกระดับชุมชน โดยที่ผ่านมาได้มีความร่วมมือในส่งเสริมและสนับสนุนทายาทผู้ประกอบการ OTOP ซึ่งถือเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ให้มีความพร้อมในการรับช่วงต่อเพื่อพัฒนากิจการมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการบริหารจัดการและการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพ ในการผลิตเสริมความเข้มแข็งให้กับชุมชน และในครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความร่วมมือที่ กทบ. และ กสอ. ร่วมกันส่งเสริม และสนับสนุนชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย เพื่อยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยทาง กสอ. เองจะเข้ามาต่อยอดองค์ความรู้ให้กับสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และกลุ่ม OTOP ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ซึ่งการดำเนินงานโครงการดังกล่าว ได้รับความสนใจจากชุมชนในพื้นที่จำนวนมาก แม้ว่าปัจจุบันสมาชิกจะมีผลิตภัณฑ์จัดจำหน่าย อยู่แล้ว แต่ยังต้องการให้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม และตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน ซึ่งการร่วมมือกันในครั้งนี้ ส่งผลให้สมาชิกของ กทบ. เข้าถึงองค์ความรู้และแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ช่องทางการตลาด อันจะก่อให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชนให้สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนมากยิ่งขึ้น