วิศวกรคนไทย รับรางวัลนวัตกรรมสิ่งแวดล้อมระดับโลก

Date Post
03.01.2020
Post Views

กระทรวงอุตสาหกรรม ปลื้ม ทีมวิศวกรคนไทยรับรางวัลระดับโลก โครงการ Crocodile ระบบทำความเย็นและปรับอากาศโดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสารทำความเย็น สอดคล้อง นโยบายแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ UN Environment ร่วมกับ องค์กร ASHRAE ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศผลรางวัล “ASHRAE- UN Environment 2019 Lower GWP Refrigeration and Air-Conditioning Innovation Award” ให้ โครงการ Crocodile  ซึ่งเป็นผลงานของทีมวิศวกรไทย  โดยเป็น 1 ใน 5 โครงการ ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติระดับโลก ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยเป็นอย่างยิ่งกระทรวงอุตสาหกรรมขอแสดงความยินดีกับกลุ่มวิศวกรคนไทยที่คิดค้นโครงการ Crocodile จนได้รับรางวัลระดับโลก โดยมี นายวรท ล้ำเลิศพงศ์พนา, นายวัลลภ ล้ำเลิศพงศ์พนา, นายจิตรกร สุขเจริญ และนายกิตติธัช ชำนาญวาด จากกลุ่มบริษัท ไอ.ที.ซี

 “โครงการ Crocodile เป็นระบบทำความเย็นและปรับอากาศระบบแรกในประเทศไทย และประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ใช้คาร์บอนไดออกไซด์เป็นสารทำความเย็นทั้งหมดโดยไม่มีสารทำความเย็นอื่นเจือปน  และเป็นระบบแรกในโลกที่นำการสกัดสารโดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์ที่สภาวะเหนือจุดวิกฤตมาร่วมกันกับระบบทำความเย็นเป็นระบบปิดระบบเดียว โดยคาร์บอนใดออกไซด์เป็นสารทำความเย็นที่มีค่าศักยภาพในการทำให้โลกร้อน (GWP) เท่ากับ 1 ซึ่งถือว่าต่ำมาก (เมื่อเทียบกับสารทำความเย็นที่ใช้กันทั่วไป เช่น R 410A ที่มีค่าGWP เท่ากับ 2088) ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน และเป็นสารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม เช่น โครงการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้วยหลักการ BCG ที่ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด เป้าหมายเพื่อที่จะบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการป้องกันการเกิดมลพิษและช่วยลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น” นายกอบชัย กล่าว

นายกอบชัย กล่าวต่อว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ประเทศไทยได้รับรางวัลนี้ คือ การออกแบบให้เป็นระบบที่มีของ

เสียเป็นศูนย์จริง ๆ หรือ Zero Waste โดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นของเสียทางอุตสาหกรรมมาเป็นสารทำความเย็น และใช้คาร์บอนไดออกไซด์ ที่สภาวะเหนือจุดวิกฤตมาเป็นตัวทำละลายในระบบสกัดสาร (Extraction) ทำให้สามารถนำของเสียจากการเกษตรกรรมเช่น เปลือกมังคุด เปลือกทุเรียน เปลือกมะม่วง แม้กระทั่งก้านหรือใบกระเพรา หรือสมุนไพรอื่น ๆ อีกหลายอย่างมาสกัดสาร เพื่อได้สารสำคัญที่จะได้มูลค่าทางเศรษฐกิจ และมีคุณค่าทางยาได้ หรืออีกนัยหนึ่ง อาหาร คือ ยา (Food Healthy)

นอกจากนี้ยังมีการนำพลังงานจากความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบที่ปกติจะถูกระบายทิ้งสู่บรรยากาศ มาใช้ทำน้ำร้อนเพื่อใช้ในอาคาร โดยสามารถทำน้ำร้อนได้ถึงอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส ทำให้ระบบนี้ไม่มีการสูญเสียพลังงาน (Net Zero Energy)

“อีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ คือ ออกแบบให้เดินระบบทำความเย็นใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยเฉพาะตอนกลางคืนที่มีบรรยากาศเย็นและค่าไฟถูก จะเก็บพลังงานความเย็นเพื่อใช้ในตอนกลางวัน โดยใช้เทคโนโลยี Cooling Batt ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นผลพวงจากการส่งเสริมและสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในสังคม ที่ต้องการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ จนได้รับรางวัลและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จและความภาคภูมิใจของคนไทย” นายกอบชัย กล่าว

Logo-Company
Logo-Company
Logo-Company
logo-company
Nichaphan W.
การตลาดและประชาสัมพันธ์
Taiwan-Excellent