สมอ. ขานรับนโยบายรัฐบาลรับมือฝุ่น PM 2.5 เตรียมประกาศมาตรฐานสารมลพิษ รถยนต์ขนาดใหญ่ยูโร 4 5 และ 6 หลังบอร์ด สมอ. มีมติเห็นชอบ พร้อมกับมาตรฐานอื่นๆ อีกกว่า 60 มาตรฐาน
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ด สมอ. เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ว่า สมอ. ขานรับนโยบายรัฐบาลในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 หลังจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ โดยเร่งรัดดำเนินการกำหนดมาตรฐานเพื่อควบคุมปริมาณสารมลพิษจากยานยนต์อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้ประกาศใช้กับรถยนต์ขนาดเล็กไปแล้วเมื่อเดือนมกราคม 2563 ที่ผ่านมา และในการประชุมบอร์ด สมอ. ในครั้งนี้ ได้มีมติเห็นชอบมาตรฐานรถยนต์ขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุก และรถบัส ระดับยูโร 4 ยูโร 5 และยูโร 6 ทั้งเครื่องยนต์เบนซิลและดีเซล เพิ่มอีกจำนวน 6 มาตรฐาน ตามที่ สมอ. นำเสนอ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานที่ใช้ในสหภาพยุโรปในขณะนี้ โดยคาดว่าจะประกาศใช้ได้ภายใน 2 – 3 เดือนถัดไป
มาตรฐานที่ สมอ. กำหนดเพื่อควบคุมปริมาณสารมลพิษจากยานยนต์นี้ จะควบคุมปริมาณสารมลพิษที่ปล่อยออกมา ไม่ให้เกินเกณฑ์ที่เป็นอันตรายต่อประชาชน ได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไฮโดรคาร์บอน ออกไซด์ของไนโตรเจน และปริมาณสารมลพิษอนุภาคหรือฝุ่นจากเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ได้กำชับให้ สมอ. เร่งดำเนินการให้เป็นไปตามมติ ครม. อย่างเร่งด่วนเพราะถือเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล
นอกจากนี้ บอร์ด สมอ. ยังมีมติเห็นชอบมาตรฐานอื่นๆ ในคราวเดียวกันอีกกว่า 60 มาตรฐาน ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์จากที่เคยมีการประชุมมา ทั้งนี้ เป็นไปตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ที่เน้นย้ำให้ สมอ. เร่งกำหนดมาตรฐาน เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้สามารถแข่งขันได้ โดยมีมาตรฐานที่เป็นไฮไลท์สำคัญ ได้แก่ มาตรฐานเหล็กกล้าแผ่นม้วนรีดร้อนสำหรับงานท่อ มาตรฐานท่อยางสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์สันดาปภายใน มาตรฐานถุงยางอนามัยชายจากวัสดุสังเคราะห์ มาตรฐานถุงเก็บปัสสาวะ มาตรฐานถุงเก็บสิ่งขับถ่ายทางหน้าท้อง และมาตรฐานแผ่นยางปูทางรถไฟ เป็นต้น