บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ฉลองครบรอบ 30 ปี ปรับเป้าหมายใหม่ตอบสนองเมกะเทรนด์ของโลกและสนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล เจาะกลุ่มพลังงานสะอาดของยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ และชิ้นส่วนยานยนต์ ด้วยการผลักดัน 5 โซลูชั่น ได้แก่ ระบบอัตโนมัติสำหรับอุตสาหกรรม ดาต้าเซ็นเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) พลังงานหมุนเวียน และระบบจัดเก็บพลังงาน
คุณเซีย เชน เยน ประธานบริหารบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เดลต้าอยู่ในสถานะที่จะได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถช่วยธุรกิจและโลกของเราให้ดำเนินงานอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีประสิทธิภาพ โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และเดลต้าได้ปรับตัวให้ทันต่อการนำทรัพยากรของเดลต้าสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อสร้างผลกระทบให้ได้มากที่สุด”
คุณกิตติศักดิ์ เงินงอกงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึงการชาร์จประจุยานยนต์ไฟฟ้าว่า เดลต้ามีเครื่องชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรง (DC) และไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งเดลต้าวางแผนที่จะขยายงานด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยได้ร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวงในกรุงเทพมหานคร และสถาบันยานยนต์ในบางปู เพื่อให้บริการโซลูชั่นสำหรับการชาร์จประจุไฟยานยนต์ไฟฟ้า
ขณะที่โซลูชั่นพลังงานหมุนเวียนนั้นเดลต้าในประเทศไทย ได้ติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา รวมทั้งสิ้น 4 เมกะวัตต์ และจะติดตั้งอีก1 เมกะวัตต์ รวมทั้งหมด 5 เมกะวัตต์ เพื่อใช้ในการวิจัยความยั่งยืนต่อไป พร้อมแผนการที่จะขยายขอบเขตสู่ตลาดที่กำลังเติบโตต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ระบบจัดเก็บพลังงาน ได้มียกระดับระบบจัดเก็บพลังงาน (ESS) เพื่อให้ตรงกับความต้องการด้านพลังงาน เมื่อปริมาณไฟฟ้าจากแหล่งจ่ายไฟแบบกริดอยู่ในระดับต่ำมากหรือนำพลังงานที่ผลิตได้ไปเก็บไว้ในช่วงเวลาการใช้งานต่ำสำหรับช่วงเวลาที่มีการใช้ไฟสูงสุด สำหรับกริดที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ระบบจัดเก็บพลังงานของเดลต้า สามารถจัดเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวัน และระบบกริดจะทำงานในช่วงกลางคืน พลังงานที่เก็บไว้นี้สามารถนำมาใช้เพื่อรักษาเสถียรภาพในการจ่ายไฟเมื่อขายพลังงานแสงอาทิตย์นี้ให้กับระบบกริดหรือเมื่อใช้พลังงานโดยตรง ข้อได้เปรียบจากการเพิ่มประสิทธิภาพกำลังไฟฟ้าที่เชื่อถือได้ และให้ปริมาณไฟฟ้าสูงสุด มีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ทำให้ระบบจัดเก็บพลังงานของเดลต้ากลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วภูมิภาค
คุณเกษมสันต์ เครือธร ผู้จัดการภาคพื้นอาวุโส ฝ่าย Industrial Automation บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติว่า “หนึ่งในโซลูชั่นระดับโลกของเดลต้า ได้แก่ สายการผลิตอัจฉริยะแบบมัลติทาสกิ้งที่มีความยืดหยุ่นสูง เป็นระบบบูรณาการที่สามารถผลิตผลิตภัณฑ์หลายรายการได้อย่างต่อเนื่อง และหนึ่งในองค์ประกอบเฉพาะของระบบนี้คือ หุ่นยนต์ DRV ซีรีส์ เป็นหุ่นยนต์อุตสาหกรรม 6 แกน สามารถหมุนได้ 360 องศา มีประสิทธิภาพสูงและแม่นยำ โดยมีจุดเด่นคือความคล่องตัว รวดเร็ว และถูกต้อง ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับสากลด้วยรางวัล iF Design Award ปีพ.ศ. 2561 โดยหุ่นยนต์ซีรีส์นี้ถูกนำมาใช้ในสายการผลิตภายในโรงงานเดลต้าที่นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ นิคมอุตสาหกรรมบางปูโรงงานที่ 1 และ 5 ไม่ว่าจะเป็นงานฉีดพลาสติก Onboard ติดลาเบล ซึ่งสามารถลดการสูญเสียจากกระบวนการผลิตได้มากถึง 5%”
อย่างไรก็ตาม เดลต้า ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 ด้วยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับพลังงานสะอาดของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ และชิ้นส่วนยานยนต์ (ODM) มากขึ้น โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ซอฟต์แวร์ – ฮาร์ดแวร์ สำหรับอุปกรณ์ EV-Chager ชิ้นส่วนในธุรกิจพลังงานทั่วไป และพลังงานทางเลือก